ในสถานการณ์ที่การโฆษณาอย่างต่อเนื่องและต่อเนื่องผ่านอีเมล WhatsApp Instagram และช่องทางอื่นๆ ก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ผู้บริโภค บริษัท Alot ซึ่งเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีการตลาดที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างและจัดการแบรนด์ด้วยกลยุทธ์ AI ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวทางแก้ไขเพื่อหลีกเลี่ยงการโฆษณาที่มากเกินไป Paula Klotz ผู้จัดการฝ่ายสื่อและการเติบโตที่ Alot เน้นย้ำถึงความสำคัญของการใช้ปัญญาประดิษฐ์และการปรับแต่งข้อความให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการรับรู้ของแคมเปญโฆษณา
จากผลสำรวจ “The Empowered Consumer” ของ Accenture ซึ่งจัดทำขึ้นในไตรมาสที่ 3 ปี 2566 พบว่า 75% ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่เห็นด้วยกับการโฆษณาที่มากเกินไป ส่งผลให้ผู้บริโภค 74% ตัดสินใจยกเลิกการซื้อสินค้า ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่เจาะจงและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
พอลล่า คลอตซ์ อธิบายว่าขั้นตอนแรกในการลดอัตราเหล่านี้คือการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อย่างลึกซึ้ง “ทุกอย่างเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายคือใครและความสนใจที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไร จากนั้น สิ่งสำคัญคือการสร้างสมดุลระหว่างการเข้าถึงและความถี่ในการโฆษณา เพื่อให้สามารถแข่งขันได้โดยไม่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหนื่อยล้า นอกจากนี้ การนำเสนอบนช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายต้องการนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าคอนเทนต์จะเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้อย่างดีที่สุด” พอลล่ากล่าว
ผู้เชี่ยวชาญเน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดทำแผนผังเส้นทางการซื้อของลูกค้าและนำข้อมูลทุกขั้นตอนมาวิเคราะห์ ซึ่งจะช่วยให้แคมเปญต่างๆ มีความแม่นยำและได้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์มากขึ้น “เมื่อวางแผนการสื่อสาร สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงไม่เพียงแต่ข้อมูลที่เราต้องการจะสื่อเท่านั้น แต่ต้องคำนึงถึงน้ำเสียงที่เหมาะสมด้วย นั่นคือเหตุผลที่การบริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคลจึงเป็นสิ่งสำคัญ” เธอกล่าว
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการดำเนินกิจกรรมเหล่านี้ การใช้ข้อมูลและสารสนเทศช่วยให้สามารถทบทวนกลยุทธ์และบรรลุผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจยิ่งขึ้น “เราไม่สามารถหยุดใช้ AI ได้ แต่จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการทำงานของอัลกอริทึมถือเป็นพื้นฐานสำคัญ เพราะยิ่งแบรนด์ปรับตัวเข้ากับความเป็นจริงและเทคโนโลยีใหม่ๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความแตกต่างและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้นเท่านั้น” พอลล่า คลอตซ์ สรุป
การนำแนวทางปฏิบัตินี้มาใช้สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีที่บริษัทต่างๆ สื่อสารกับผู้บริโภค ทำให้แคมเปญโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้นและรบกวนน้อยลง และส่งผลให้ลดการปฏิเสธและเพิ่มอัตราการแปลงได้

